สรุปสาระสำคัญ
หัวใจของบอทเทรดตัวนี้คือ การหาจุดเข้าซื้อที่ราคา Dip หรือราคาย่อตัวต่ำสุด ก่อนที่กราฟสจะปรับตัวเป็นขาขึ้นนอนาคต
กราฟที่ต้องการ
⬇️
อัตราผลตอบแทนเฮลี่ยต่อเดือน
4.5-10%
การเทรดคริปโตเคอร์เรนซีในยุคปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้นด้วยการใช้งานเครื่องมือและบอทต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากขึ้นคือ “Trailing Buy Bot” โดยในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Trailing Buy Bot บน Pionex และวิธีการใช้งานอย่างละเอียด
สารบัญ
- Trailing Buy Bot คืออะไร?
- ความสำคัญของ Trailing Buy Bot
- อธิบายค่าพารามิเตอร์
- วิธีการตั้งค่า Trailing Buy Bot บน Pionex ด้วยมือถือ
- เคล็ดลับในการใช้ Trailing Buy Bot ให้มีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่างการใช้งาน Trailing Buy Bot
- คำแนะนำในการใช้ Trailing Buy Bot สำหรับผู้เริ่มต้น
- การวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot
- ความเสี่ยงในการใช้ Trailing Buy Bot
- ข้อดีและข้อเสียของ Trailing Buy Bot
- บทสรุป
Trailing Buy Bot คืออะไร?
Trailing Buy Bot คือบอทเทรดที่ออกแบบมาเพื่อซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนดและเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง การใช้งานบอทนี้จะช่วยให้คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติเมื่อราคาลดลง
ความสำคัญของ Trailing Buy Bot
1️⃣ ช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อสินทรัพย์ในราคาสูง Trailing Buy Bot เป็นบอทเทรดที่ออกแบบมาเพื่อเข้าซื้อทรัพย์สิน ในราคาต่ำที่สุด ก่อนที่กราฟจะพุ่งขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ลดความเสี่ยงที่คุณจะต้องซื้อทรัพย์สินในราคาสูงกว่าวิธีการเดิม ๆ |
2️⃣ เพิ่มโอกาสในการทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์ลดลง เมื่อราคาทรัพย์สินเริ่มย่อตัว การใช้บอทเทรดนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับคุณมากขึ้นกว่าบอทเทรดตัวอื่น ๆ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งหากคุณวิเคราะห์กราฟแล้ว แน่ชัดว่าเป็นขาลง (Bearlish) และในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นอีกครั้ง |
3️⃣ ประหยัดเวลาและลดความกังวลในการติดตามราคาตลอดเวลา ข้อดีประการสำคัญที่สุดของบอทเทรดทุกตัว รวมทั้งตัว Trailing Buy Bot นั่นคือ คุณไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ ระบบจะทำเงินให้คุณแบบอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง และทุกวัน หน้าที่คุณจึงมีแค่การตรวจสอบและปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ให้ดีขึ้นเท่านั้น |
อธิบายค่าพารามิเตอร์
เพื่อให้คุณสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Trailing Buy bot ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนขออนุญาตอธิบาย ค่าพารามิเตอร์แต่ะละตัวเพื่อให้คุณเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ค่าพารามิเตอร์ | อธิบาย |
---|---|
Trigger price (ราคาเงื่อนไข) | เมื่อราคาตลาดถึงราคาทริกเกอร์ที่ตั้งไว้ คำสั่งซื้อจะถูกกระตุ้นและดำเนินการซื้อ |
Trailing percent % (เด้งสูงสุดกี่ %) | เมื่อราคาลดลงถึงระดับต่ำสุดที่กำหนดและเด้งกลับขึ้นในระดับหนึ่ง คำสั่งซื้อจะถูกดำเนินการ โดอยอาจเลือก 5% 10% 15% |
Investment (การลงทุน) | จำนวนเงินทุนที่วางแผนจะลงทุนในคำสั่งซื้อนี้ |
วิธีการตั้งค่า Trailing Buy Bot บน Pionex ด้วยมือถือ
สำหรับการตั้งค่า Trailing Buy Bot บน Pionex บนมือถือ หรือ Application มีขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ทันทีดังต่อไปนี้ครับ
1️⃣ เข้าสู่ระบบ ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Pionex ของคุณ หากยังไม่ได้เป็นสมาชิก ให้สมัคร Pionex ให้สมัครฟรี และทำการยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นจึง Login เข้าสู่ระบบอีกครั้งหนึ่ง |
2️⃣ เลือกสร้างบอท เริ่มจากคลิกที่คำว่า “บอท” และคลิกเครื่องหมาย + ที่คำว่า “เริ่มสร้างบอท” |
3️⃣ เลือก Trailing Buy bot ให้มองหาบอทเทรดที่ชื่อว่า Trailing Buy bot จากนั้นคลิกที่ตัวบอท |
3️⃣ เลือกโทเค็น ที่ต้องการใช้บอทเทรด ให้เริ่มจากเลือกคู่เงินที่คุณต้องการใช้ Trailing Buy bot เทรด ตัวอย่างเช่น BTC/USDT ตามภาพด้านล่าง |
4️⃣ กำหนดราคา Trigger price ให้คุณกำหนดราคาตลาด คือราคาที่เมื่อราคาเคลื่อนมาถึง ราคาที่คุณตั้งไว้ Trigger จะกระตุ้นให้เปิดคำสั่งซื้อที่ราคาดังกล่าว ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนตั้งราคาไว้ที่ 55896.03 USDT หากราคาย่อมาแตะที่ราคานี้ระบบจะเปิดคำสั่งซื้ออัตโนมัติทันที |
5️⃣ กำหนดจำนวน Trailing percent % เมื่อราคาลดลงถึงระดับต่ำสุดที่กำหนดและเด้งกลับขึ้นในระดับหนึ่ง คำสั่งซื้อจะถูกดำเนินการ โดอยอาจเลือก 5% 10% 15% ซึ่งผู้เขียนเลือกค่าเด้งที่ 10% |
6️⃣ ใส่จำนวนเงินลงทุน จากนั้นให้คุณใส่จำนวนเงินลงทุนที่ต้องการ เช่น 60 USDT เป็นต้น |
7️⃣ ยืนยันการตั้งค่า ตรวจสอบการตั้งค่าของคุณและกด ‘สร้าง’ เพื่อเริ่มการทำงานของบอท |
เคล็ดลับในการใช้ Trailing Buy Bot ให้มีประสิทธิภาพ
1.กำหนดอัตราการติดตามราคาอย่างรอบคอบ
การกำหนดอัตราการติดตามราคาเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้งาน Trailing Buy Bot โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ดีที่สุด โดยเลือกอัตราที่ไม่สูงเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสในการซื้อ
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่าคุณต้องการใช้ Trailing Buy Bot เพื่อซื้อ Bitcoin (BTC) ในช่วงเวลาที่ราคามีความผันผวนสูง คุณสามารถกำหนดอัตราการติดตามราคา (Trailing Percentage) ได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1️⃣ อัตราการติดตามราคาที่สูงเกินไป (เช่น 20%) หากคุณตั้งค่าอัตราการติดตามราคาเป็น 20% หมายความว่าราคาของ BTC จะต้องลดลง 20% จากจุดสูงสุดล่าสุดก่อนที่บอทจะเริ่มทำงาน ข้อดีคือ คุณจะซื้อ BTC ในราคาที่ต่ำมาก หากราคาลดลงอย่างมาก แต่ ข้อเสียคือความเป็นไปได้ในการเกิดสถานการณ์นี้น้อย ทำให้คุณอาจพลาดโอกาสในการซื้อ BTC ในราคาที่ต่ำกว่าที่ต้องการ |
2️⃣ อัตราการติดตามราคาที่เหมาะสม (เช่น 5-10%) หากคุณตั้งค่าอัตราการติดตามราคาเป็น 5% หมายความว่าราคาของ BTC จะต้องลดลง 5% จากจุดสูงสุดล่าสุดก่อนที่บอทจะเริ่มทำงาน ข้อดีคือ ความเป็นไปได้ในการเกิดสถานการณ์นี้มีมากขึ้น ทำให้คุณสามารถซื้อ BTC ในราคาที่ต่ำลงตามที่คาดหวัง แต่ข้อเสียคือ ราคาที่ลดลง 5% อาจจะไม่ใช่ราคาที่ต่ำที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ แต่ยังถือว่าเป็นราคาที่ดี |
การเปรียบเทียบ
รายการ / อัตราราคา | 20% (สูง) | 10% (เหมาะสม) |
---|---|---|
ราคาปัจจุบัน | $40,000 | $40,000 |
ราคาต้องลดลง | $40,000 * 0.80 = $32,000 | $40,000 * 0.90 = $36,000 |
อธิบาย | ถ้าราคา BTC ลดลงถึง $32,000 และเริ่มเพิ่มขึ้น บอทจะทำการซื้อ BTC | ถ้าราคา BTC ลดลงถึง $36,000 และเริ่มเพิ่มขึ้น บอทจะทำการซื้อ BTC |
จากตัวอย่างข้างต้น คุณสามารถเห็นได้ว่าการตั้งค่าอัตราการติดตามราคาในระดับที่ไม่สูงเกินไปจะเพิ่มโอกาสในการซื้อ BTC ในราคาที่เหมาะสมและมีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นมากกว่าการตั้งค่าในระดับที่สูงเกินไป
2.ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
แม้ว่าการใช้ Trailing Buy Bot จะช่วยให้คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติ แต่การติดตามสถานการณ์ตลาดยังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงและสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างประกอบคำอธิบาย
สมมติว่าคุณใช้ Trailing Buy Bot เพื่อซื้อ Ethereum (ETH) และกำหนดอัตราการติดตามราคาไว้ที่ 10% ในระหว่างที่บอทกำลังทำงาน คุณควรติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าหรือการตัดสินใจเพิ่มเติมตามความจำเป็น
1 สถานการณ์ตลาดทั่วไป |
---|
ราคาของ ETH อยู่ที่ $2,000 และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ |
คุณตั้งค่าอัตราการติดตามราคาไว้ที่ 10% หมายความว่าบอทจะซื้อเมื่อราคาลดลงถึง $1,800 และเริ่มเพิ่มขึ้น |
2 เหตุการณ์สำคัญในตลาด |
---|
ข่าวใหญ่ มีข่าวว่าโครงการ DeFi ที่สำคัญบน Ethereum กำลังถูกโจมตี (Hack) |
ผลกระทบ ราคาของ ETH อาจลดลงอย่างมากและรวดเร็วเพราะนักลงทุนขายออก |
การตัดสินใจ คุณติดตามข่าวและพบว่าราคาของ ETH ลดลงอย่างรวดเร็วและต่ำกว่าระดับที่บอทตั้งค่า คุณอาจตัดสินใจหยุดการทำงานของบอทชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อในช่วงที่ตลาดยังไม่เสถียร |
3 โอกาสในตลาด |
---|
ข่าวดี Ethereum ประกาศอัปเกรดใหม่ที่ส่งผลดีต่อการทำงานของระบบ |
ผลกระทบ ราคาของ ETH อาจเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ |
การตัดสินใจ คุณติดตามข่าวและพบว่าราคาของ ETH เพิ่มขึ้นเร็ว คุณอาจปรับอัตราการติดตามราคาหรือหยุดบอทเพื่อรอให้ราคาสูงขึ้นก่อนที่จะเริ่มซื้อใหม่ |
การติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
1 ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟราคา, เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), RSI ฯลฯ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลา |
2 ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เช่น การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ, การอัปเกรดโปรโตคอล, การโจมตีจากแฮกเกอร์ ฯลฯ |
3 ใช้แพลตฟอร์มข่าวสาร เข้าร่วมชุมชนและแพลตฟอร์มข่าวสารเช่น CoinMarketCap, CoinGecko, Crypto news websites และ Twitter เพื่อรับข้อมูลล่าสุด |
3.การวิเคราะห์ตลาด
1️⃣ ตรวจสอบแนวโน้มระยะยาว วิเคราะห์แนวโน้มระยะยาวของสินทรัพย์เพื่อทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายเดือนหรือปี |
2️⃣ ระบุแนวรับและแนวต้าน ระบุระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต |
3️⃣ ประเมินความผันผวน ใช้ตัวชี้วัดเช่น Bollinger Bands หรือ Average True Range (ATR) เพื่อประเมินความผันผวนของตลาด |
การติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของ Trailing Buy Bot ได้ตามสถานการณ์ แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มของตลาดและตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีของคุณ
ตัวอย่างการใช้งาน Trailing Buy Bot
สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Bitcoin (BTC) ในราคาที่ดีที่สุด คุณสามารถตั้งค่า Trailing Buy Bot ดังนี้
1️⃣ อัตราการติดตามราคา: 10% |
2️⃣ ระดับราคาที่ต้องการซื้อ: $30,000 |
เมื่อราคาของ BTC ลดลงต่ำกว่า $30,000 และเริ่มเพิ่มขึ้น 10% จากระดับต่ำสุด บอทจะทำการซื้อ BTC ให้คุณโดยอัตโนมัติ
คำแนะนำในการใช้ Trailing Buy Bot สำหรับผู้เริ่มต้น
1 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบอท อ่านคู่มือและรีวิวต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของบอท |
2 ทดลองใช้งานด้วยจำนวนเงินน้อย เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่คุณพร้อมจะสูญเสียหากเกิดความผิดพลาด |
3 ติดตามผลการทำงานของบอท ตรวจสอบผลการทำงานของบอทอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงการตั้งค่า |
การวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot
การวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณ การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าบอททำงานได้ดีเพียงใดและจะมีการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอย่างไรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดในอนาคต
ขั้นตอนในการวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot
1.รวบรวมข้อมูลการเทรด
บันทึกจำนวนการซื้อที่เกิดขึ้น |
บันทึกราคาซื้อและราคาขายของแต่ละการซื้อ |
บันทึกเวลาที่เกิดการซื้อและขาย |
2.คำนวณกำไร/ขาดทุน
คำนวณกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจากแต่ละการซื้อโดยการหาผลต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อ |
รวมกำไรหรือขาดทุนทั้งหมดเพื่อหาผลลัพธ์สุทธิ |
3.วิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรม
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดในช่วงเวลาที่บอททำงาน |
ดูว่าบอทซื้อที่ระดับราคาใดบ่อยที่สุดและราคานั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในภายหลัง |
4.ปรับปรุงกลยุทธ์
ประเมินการตั้งค่าอัตราการติดตามราคาและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ |
ดูว่ามีเหตุการณ์สำคัญใดที่ส่งผลต่อการทำงานของบอทและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสม |
ตัวอย่างการวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot
สมมติว่าคุณใช้ Trailing Buy Bot เพื่อซื้อ Bitcoin (BTC) ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือน และได้ทำการบันทึกข้อมูลการเทรดไว้ดังนี้
1.รวบรวมข้อมูลการเทรด
วันที่ | ราคาซื้อ USD | ราคาขาย USD | จำนวน BTC | กำไร/ขาดทุน (USD) |
---|---|---|---|---|
1 ก.ค. | 30,000 | 31,000 | 0.1 | 100 |
5.ก.ค. | 28,000 | 29,500 | 0.1 | 150 |
10 ก.ค. | 32,000 | 31,500 | 0.1 | -50 |
15 ก.ค. | 29,000 | 30,000 | 0.1 | 100 |
20 ก.ค. | 31,000 | 32,500 | 0.1 | 150 |
2.คำนวณกำไร/ขาดทุน
รวมกำไร/ขาดทุน: 100 + 150 – 50 + 100 + 150 = 450 USD |
3.วิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรม
จากข้อมูล พบว่าราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,000 USD ต่อ BTC |
ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,900 USD ต่อ BTC |
การซื้อที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีการทำกำไร แต่มีบางครั้งที่บอทซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาขาย ทำให้เกิดขาดทุน |
4.ปรับปรุงกลยุทธ์
พิจารณาปรับอัตราการติดตามราคา อาจลดอัตราการติดตามราคาเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อในราคาที่ต่ำกว่า |
ติดตามเหตุการณ์สำคัญ ดูว่ามีเหตุการณ์ใดที่ส่งผลต่อราคาตลาด เช่น ข่าวสารหรือการอัปเกรดโปรโตคอล และปรับกลยุทธ์ตามนั้น |
ทดสอบการตั้งค่าใหม่ ทดสอบการตั้งค่าใหม่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันเพื่อดูว่ามีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหรือไม่ |
การวิเคราะห์ผลการใช้งาน Trailing Buy Bot เป็นกระบวนการที่ช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณได้ การรวบรวมข้อมูลการเทรด คำนวณกำไร/ขาดทุน และวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมของตลาดเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำความเข้าใจประสิทธิภาพของบอทและปรับปรุงการตั้งค่าให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ความเสี่ยงในการใช้ Trailing Buy Bot
การใช้ Trailing Buy Bot ย่อมมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วไป คุณควรระวัง
1️⃣ ความผันผวนของตลาด หากตลาดมีความผันผวนสูง การตั้งค่าอัตราการติดตามราคาอาจไม่เหมาะสม |
2️⃣ การตั้งค่าผิดพลาด การตั้งค่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้บอทซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ไม่ดี |
ข้อดีและข้อเสียของ Trailing Buy Bot
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ | ความเสี่ยงจากการตั้งค่าที่ไม่เหมาะสม |
ลดความเสี่ยงในการซื้อในราคาสูง | อาจพลาดโอกาสในการซื้อในราคาที่ต่ำกว่านั้น |
ประหยัดเวลาในการติดตามตลาด |
บทสรุป
Trailing Buy Bot บน Pionex เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยให้คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ หากคุณตั้งค่าและใช้งานอย่างถูกต้อง บอทนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี
การเรียนรู้และทำความเข้าใจการใช้งาน Trailing Buy Bot จะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้ในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หวังว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นใช้งาน Trailing Buy Bot บน Pionex ของคุณ
ท้ายที่สุด การใช้งาน Trailing Buy Bot เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี ความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ตลาดยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จในการเทรด